@piyamitrgroup
         

บทความ ทำไมงานรื้อถอนในประเทศไทยถึงไม่ใช้วิธีการระเบิดตึก...

บทความ ทำไมงานรื้อถอนในประเทศไทยถึงไม่ใช้วิธีการระเบิดตึก...

ทำไมงานรื้อถอนในประเทศไทยถึงไม่ใช้วิธีการระเบิดตึก...


Cr. By Dombowerphoto
 
สวัสดีครับ วันนี้ ผมเขียนบทความที่เป็นปัญหาที่ถามกันเข้ามามากมาย และเป็นคำถามที่ผมพบได้พบบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า วิศวกร รวมไปถึงผู้ที่สนใจ ในงานรื้อถอนครับ
 
ทำไมงานรื้อถอนในประเทศไทยถึงไม่ใช้วิธีการระเบิดตึกคุณทุบตึกแบบนี้ ใช้วิธีการระเบิดตึกไม่เร็วกว่าเหรอ...
 
ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผม วันนี้ผมจะมาวิเคราะห์และขอตอบในมุมมองของผมเองครับ นักรื้อถอนคนนึ่ง...
 
ประเด็นแรก... ผมว่า ประเทศไทยนั้นยังไม่มีตึกสูงมากนัก กล่าว คือ ปัจจุบันเห็นได้ว่า ตึกในบ้านเราส่วนมากนั้นมีความสูงประมาณ 4-8 ชั้น มีตึกสูงอยู่บ้างที่มีความสูง 10 - 20 ชั้นขึ้นไป ให้ได้รื้อถอนกันที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าในเมืองไทยพึ่งมีตึกสูงๆ ได้เมื่อราวๆ 40-50 ปี ซึ่งจะไม่เหมือนทางฝั่งประเทศยุโรป หรือ อเมริกา ทางฝั่งประเทศที่เจริญแล้ว ที่มีตึกสูงก่อนหน้าเราเป็น 100 ปีแล้วครับ อาคารสูงทางบ้านเค้าก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ สำหรับในประเทศไทยนั้น ผมคิดว่า ไม่เกิน 40 ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นการใช้วิธีการระเบิดตึกในเมืองไทยครับ
 
ประเด็นที่สอง... เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการใช้ระเบิดในการรื้อถอนอาคารในประเทศไทย ผู้ที่เกี่ยวข้องในการรื้อถอน ผมคิดว่าน่าจะเป็นวิศวกรในงานรื้อระเบิดตึก ในเมืองนอกมีการเรียนการสอนวิชานี้ครับ เป็นวิชาระเบิดตึก ผมได้มีโอกาสไปดูงานที่ประเทศเยอรมันเมื่อปี่ที่ผ่านมา ทางเยอรมันได้มีการเชิญผมให้เข้าไปเยี่ยมชมไซด์งานรื้อถอนของเค้า ผมไปดูมาก็ได้ความรู้ ได้ทราบถึงวิทยาการรื้อรอนของเยอรมัน เพื่อนของผมได้ชวนผมให้ไปดูเรื่องงานระเบิดตึก เนื่องจากวันนั้นผมติดภารกิจจึงได้กลับมาก่อน แต่ผมได้มีการพูดคุยเบื้องต้น กับเพื่อนของผม เค้าได้เล่าให้ผมฟังว่าลูกชายของเค้ามีความสนใจวิธีการระเบิดตึก ลูกชายของเพื่อนผมจึงได้ไปดู ไปศึกษา และไปเรียน วิชาระเบิดตึก ผมคิดว่าน่าจะอีกสักประมาณ 3-4 ปีครับ ถ้าลูกชายเค้าได้เรียนจบมา ผมคงจะต้องหาโอกาสขอเข้าไปดูงานระเบิดตึกที่เยอรมันแล้วจะกลับมาเขียนสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานระเบิดตึกในโอกาสต่อไปครับ
 
ผมขอเสริมในส่วนประการที่สองอีกนิดครับ นอกจากเราต้องมีวิศวกรแล้ว มีต้องพนังงาน (officer) หรือ คนงานที่ต้องมีความเข้าใจ ในเรื่องของการระเบิดอาคารครับ
 
ประเด็นที่สาม... ในการระเบิดตึกยังติดข้อกฎหมายของประเทศไทย จะต้องมีการขออนุญาตในการยืนกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด โดยมีผู้อำนวยการ กรอ.มน. ฝ่ายทหาร มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อบต. และส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง น่าจะต้องเป็นเรื่องของตำรวจ ผมขออนุญาตอ้างอิงเอกสารฉบับนี้ ในบทความนี้ครับ
 
จะเห็นได้ว่าต้องมีผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการยืนขออนุญาต ใช้เวลาค่อนข้างนาน น่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ในการพิจารณา จะต้องมีการสร้างโกดังเพื่อมาเก็บวัตถุระเบิดต่างๆ และต้องมีผู้เชียวชาญเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย น่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากกว่าการใช้เครื่องจักร  (Mechanical)
 
ประเด็นที่สี่... ผมมองว่าค่าแรงคนงานของบ้านเรานั้นไม่สูงเท่ากับในยุโรป บางคนบอกว่า เห็นเค้าใช้วิธีการระเบิดตึกด้วยเวลาไม่ถึง 15 นาที ลงมากองเรียบร้อย เท่าผมได้พูดคุยกับเพื่อนที่เป็นเจ้ารื้อถอน ซึ่งเป็นเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในมิวนิก จริงแล้วงานระเบิดตึกไม่ใช่ว่าเท่าที่คุณเห็นแค่ภายใน 15 วินาที ระเบิดตูม ลงมากองแล้วเสร็จไม่ใช้ครับ เนื่องจากระเบิดตึกต้องมีการเตรียมการ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 1 - 2 เดือน จะต้องมีการแจ้งอาคารค้างเคียง ดูทิศทางลม ความชื้น การนำปูนของตึกที่จะทำการรื้อถอนไปเทรสในเรื่องของความแข็งแรง สแกนดูเหล็ก การเตรียมการก่อนทำการระเบิดตึก ใช้ระละเวลาราวๆประมาณ 2 เดือน การทำงานระเบิดตึกมักจะใช้คนงานน้อย สาเหตุที่ใช้คนงานน้อยก็เพราะว่า ค่าแรงแพง  ต้องใช้บุคคลากรให้น้อยที่สุด ต้องใช้คนเข้าไปฝังระเบิด แล้วฝังด้วยชนวนระเบิดที่ต้องป้องกันสะเก็ดปูนที่จะกระเด็นออกไป
 
อย่างที่ผมได้กล่าวมาในประการที่สี่ เมื่อค่าแรงแพงขึ้นทุกวัน คนงานที่มารื้อถอนอาคารจะหาได้ยากขึ้นทุกวัน ผมคิดว่าวันหนึ่ง อีก 40 - 50 ปีข้างหน้า ตึกสูงในเมืองไทยจะเริ่มหมดอายุ เราอาจจะได้เห็นคอนโดที่อยู่ข้างบ้านเรา ที่มีความสูงขนาด 15 - 30 ชั้น อาจจะได้ใช้วิธีระเบิดตึก วิทยาการในการระเบิดตึกก็จะได้เข้ามาใช้ในเมืองไทย และเมื่อนั้นเราจะได้เห็นการระเบิดตึกในเมืองไทย อีก 40-50 ปีข้างหน้าครับนี้ ก็คือบทวิเคราะห์จากประสบการณ์และความเห็นในมุมมองของนักรื้อตึกของผมครับ
 

Cr. By Claudia Tudosa


ประเด็นที่ห้า........ อาคารสูงที่เหมาะกับการใช้ระเบิดที่ต้องการจะรื้อถอนนั้น ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ เนื่องจากส่วนใหญ่พื้นดินชั้นล่างในเขตกรุงเทพเป็นพื้นดินอ่อน (ดินเหนียว ดินตะกอนปากแม่น้ำ) ทำให้หากใช้วิธีการระเบิด ซากอาคารที่ระเบิดจะทับถม ลงมากระแทกที่พื้นชั้นล่าง (Sum Load) ด้วยแรงกระแทกด้วยน้ำหนักดังกล่าว (Shock Load) แรงกระแทกที่พื้นจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากน้ำหนักของวัตถุนั้น เมื่อซากอาคาร สมมุติน้ำหนัก 2,000 ตัน แรงกระแทกที่พื้นจะเพิ่มเป็น 6,000 ตันในทันที  และจากข้อจำกัดเรื่องชั้นพื้นดินอ่อนข้างต้น ดินจะกระเพื่อม สไลด์ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างต่ออาคารข้างเคียงทันทีแบบควบคุมความเสียหายไม่ได้

ลิขสิทธิ์บริษัท ปิยะมิตรกรุ๊ป จำกัด โดย.คุณ โจ้ 081-755-1229









รับรื้อถอน,งานรื้อถอน,รับรื้อถอนบ้าน,รื้อถอน,รับตัดคอนกรีต,ตัดคอนกรีต,รับทุบอาคาร,รับรื้อสะพาน รื้ออาคาร,รื้อบ้าน,รื้อภายใน,รับรื้อบ้าน ,รื้อสำนักงาน,รับตัดคอนกรีต,ทุบตึก,รื้อถอนอาคาร,ทุบอาคาร รื้อสิ่งปลูกสร้าง,ทุบบ้าน,รับทุบตึก,รื้อภายในอาคาร,รื้อภายใน ,รื้อร้านค้า ,รื้อสำนักงาน ,รื้อห้างสรรพสินค้า ,รื้อบ้าน ,รื้อกระเบื้อง,สกัดกระเบื้อง